คุ้มครองเงินฝาก 25 ล้านบาท เริ่ม 11 สิงหาคม ปีนี้

สถาบันคุ้มครองเงินฝากจะให้การคุ้มครองผู้ฝากเงินคนละ 25 ล้านบาท ต่อ 1 สถาบันการเงิน ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก มั่นใจว่าสถาบันการเงินทุกแห่งมีความมั่นคงสูงภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย

การคุ้มครองเงินฝาก เริ่มใช้ในประเทศไทยมาตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2551 เมื่อมีการออกพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2551 ซึ่งก่อนหน้านั้นประเทศไทยไม่มีระบบการคุ้มครองเงินฝากอย่างชัดเจน จะมีมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ก็ต่อเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ที่รุนแรงทั้งระบบสถาบันการเงิน ดังนั้น จึงถือได้ว่าเป็นนโยบายและมาตรการสำคัญของภาครัฐที่จะให้การคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนผู้ฝากเงินในสถาบันการเงินเป็นรายสถาบันการเงิน ว่าผู้ฝากจะต้องได้รับเงินฝากคืนภายในเวลาที่รวดเร็วหากสถาบันการเงินแห่งใดแห่งหนึ่งประสบปัญหาต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาต โดยที่ผู้ฝากเงินไม่ต้องไปดำเนินการเรียกร้องหรือฟ้องร้องเอาเองจากสถาบันการเงินนั้นๆ ทั้งนี้เงินฝากที่สูงกว่าวงเงินคุ้มครองก็จะมีโอกาสได้รับคืนในภายหลังอีกด้วยเมื่อมีการชำระบัญชี

ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป วงเงินคุ้มครองตามที่กฎหมายกำหนดจะอยู่ที่จำนวน 25 ล้านบาทต่อคนต่อสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นวงเงินที่ครอบคลุมผู้ฝากถึงร้อยละ 99.94 ของจำนวนผู้ฝากเงินทั้งระบบ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อผู้ฝากเงิน เพราะในปัจจุบัน สถาบันการเงินของไทยมีเสถียรภาพและมั่นคงมากภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยธนาคารแห่งประเทศไทยมีความระมัดระวังสูงในการกำกับดูแลสถาบันการเงินและมีเครื่องมือที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหาสถาบันการเงินได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ สถาบันการเงินของไทยก็ได้มีการบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ เป็นอย่างดี มีความรอบคอบในการดำเนินนโยบาย
และการประกอบธุรกิจเพื่อมิให้เกิดปัญหา มีธรรมาภิบาลและมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเห็นได้จากวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในต่างประเทศที่ผ่านมามิได้ส่งผลกระทบที่เลวร้ายต่อสถาบันการเงินในประเทศไทย

จากการที่สถาบันคุ้มครองเงินฝากได้หารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ บริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ สถาบันการเงินที่กล่าวทุกแห่งมั่นใจว่าพร้อมจะให้ความเชื่อมั่นต่อผู้ฝากเงินและพร้อมจะดูแลเงินฝากของประชาชนเป็นอย่างดี และจะมีการหารือกับสถาบันคุ้มครองเงินฝากและธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องต่อไป

ปัจจุบันสถาบันการเงินของไทยภายใต้ระบบคุ้มครองเงินฝากประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ไทย 18 แห่ง สาขาธนาคารต่างประเทศ 12 แห่ง บริษัทเงินทุน 2 แห่ง และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ 3 แห่ง โดยมียอดเงินรับฝากจากประชาชนรวมทั้งสิ้น 11.62 ล้านล้านบาท มีสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมที่เพียงร้อยละ 2.46 เท่านั้น ในขณะที่มีเงินกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยง (BIS Ratio) ทั้งสิ้นสูงถึงร้อยละ 16.69 ผลประกอบการมีกำไรและมีความเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดมา


ปรับปรุงล่าสุด 29 ก.พ. 2567

สงวนสิทธิ์โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก