พระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวนเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครองเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2563 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2563

ตามที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ได้มีมติให้ความเห็นชอบในการขยายระยะเวลาบังคับใช้วงเงินการคุ้มครองเงินฝาก จำนวน 5 ล้านบาทออกไปนั้น พระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวนเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครองเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2563 ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ จำนวนเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครองเป็นการทั่วไป ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เป็นจำนวนดังต่อไปนี้

 

ระยะเวลา

กำหนดวงเงินความคุ้มครองเงินฝาก

ปัจจุบัน ถึงวันที่ 10 ส.ค. 2564

จำนวน 5 ล้านบาท

ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 2564 เป็นต้นไป

จำนวน 1 ล้านบาท

 

เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งทำให้เกิดความผันผวนในตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ดังนั้น เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้ฝากเงินต่อระบบสถาบันการเงินของประเทศ สมควรกำหนดจำนวนเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครองเป็นการทั่วไป ซึ่งเป็นการกำหนดจำนวนเงินสูงกว่าที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2551 จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

การขยายวงเงินคุ้มครองเงินฝากครั้งนี้ จะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ฝากเงิน ในช่วงสถานการณ์ปัจจุบัน และทำให้ผู้ฝากเงิน มีความมั่นใจต่อการใช้บริการของสถาบันการเงินเป็นปกติ โดยวงเงินคุ้มครองที่ 5 ล้านบาทต่อคนต่อสถาบันการเงิน ครอบคลุมผู้ฝากถึงร้อยละ 99.65 ของจำนวนผู้ฝากเงินทั้งระบบ (ณ 31 ธ.ค. 62)  และในปัจจุบันสถาบันการเงินของไทยได้รับการกำกับดูแลจากทางการอย่างใกล้ชิด 

ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการคุ้มครองเงินฝาก ได้ทางศูนย์บริการข้อมูลคุ้มครองเงินฝาก โทร.1158

 

พระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวนเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครองเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2563

 

 


ปรับปรุงล่าสุด 29 ก.พ. 2567

สงวนสิทธิ์โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก