สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) หรือ DPA ในฐานะหนึ่งในหน่วยงานที่มีบทบาทในการช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงินของประเทศด้วยระบบคุ้มครองเงินฝาก ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่น ให้กับประชาชนผู้ฝากเงิน DPA ได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ Digital DPA ในช่วงระยะเวลา ที่ผ่านมา ด้วยการวางโครงข่ายการเชื่อมต่อระบบปฏิบัติการต่างๆเข้าด้วยกันให้สามารถปฏิบัติภารกิจ ในการคุ้มครองผู้ฝากเงินได้อย่างรวดเร็ว สอดผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ากับการดำเนินงาน รองรับพฤติกรรมผู้ฝากในโลกยุคปัจจุบันและอนาคต โดยนำเสนอผ่านแคมเปญสื่อสาร “DPA พร้อม” พร้อมคุ้มครอง พร้อมเข้าถึง พร้อมเคียงข้าง ขึ้น เพื่อตอกย้ำพันธกิจและการเตรียมความพร้อมของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก
นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการ สถาบันคุ้มครองเงินฝาก กล่าวว่า “การสร้างความเข้าใจให้ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับระบบคุ้มครองเงินฝากและความรู้ทางการเงินพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสิ่งเหล่านี้คือภูมิคุ้มกันที่จะช่วยลดความตื่นตระหนกให้กับประชาชนหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือปิดกิจการ นอกจากนี้ DPA ได้พัฒนาเครื่องมือที่จะให้บริการประชาชนโดยเฉพาะระบบเทคโนโลยีเพื่อรองรับการปฏิบัติงานด้านการจ่ายคืนผู้ฝากและการชำระบัญชี อีกทั้งมีการเชื่อมต่อระบบการสื่อสารเป็น Omni Channel เพื่อรวมศูนย์ข้อมูลให้สามารถตรวจสอบข้อมูล ตอบข้อซักถาม ช่วยเหลือประชาชนผู้ฝากได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย”
สำหรับความพร้อมด้านแรก พร้อมคุ้มครอง DPA ได้เตรียม “ระบบ” พร้อม ด้วยการวางโครงข่ายระบบดิจิทัล เทคโนโลยี และระบบปฏิบัติการ อีกทั้งยังมีการจำลองสถานการณ์ทดสอบระบบ (Simulation) กระบวนการจ่ายคืน รูปแบบการสื่อสารกับผู้ฝาก รวมถึงการทดสอบระบบร่วมกับหน่วยงานในตาข่ายความมั่นคงทางการเงิน อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมการจ่ายคืนผู้ฝากอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนจะไม่สะดุดในวันที่ต้องเจอกับภาวะวิกฤต “คน” พร้อม ผ่านการซักซ้อมอยู่เสมอเพื่อให้ระบบพร้อมใช้งาน และคนพร้อมปฏิบัติหน้าที่ ก้าวไปให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกการเงินและเศรษฐกิจ เสริมทักษะ ความรู้ผ่านโปรแกรมแลกเปลี่ยน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบคุ้มครองเงินฝาก อย่างธนาคารแห่งประเทศไทยและกรมบังคับคดี เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ตรงจากผู้เชี่ยวชาญ มาพัฒนากระบวนการทำงานให้สามารถช่วยเหลือประชาชนผู้ฝากได้ดียิ่งขึ้น “กองทุนคุ้มครอง” พร้อม สร้างความเข้าใจเรื่องเงินที่นำมาใช้คุ้มครองผู้ฝาก ซึ่ง DPA เก็บเงินนำส่งจากสถาบันการเงินที่ได้รับความคุ้มครองเพื่อสะสมไว้ในกองทุนคุ้มครองเงินฝาก โดยไม่ต้องใช้เงินภาษีของประชาชนมาจ่ายคืนให้แก่ผู้ฝาก “ประชาชน” พร้อม เป็นการเตรียมประชาชนให้พร้อมรับการคุ้มครองอย่างเข้าใจและเชื่อมั่น ประชาชนผู้ฝากทุกคนเองก็เตรียมความพร้อมได้ โดยการอัพเดทข้อมูลของตัวผู้ฝากเอง ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ โดยเฉพาะที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่สามารถติดต่อได้ กับสถาบันการเงินที่มีบัญชีเงินฝาก และผูก PromptPay กับหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ฝากได้รับการคุ้มครองสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
พร้อมเข้าถึง นอกจากช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย สอดคล้องกับชีวิตยุคใหม่ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมแต่ละ Generation ผ่านช่องทางต่างๆ ของสถาบันคุ้มครองเงินฝากแล้ว DPA ยังมีข้อมูลความรู้เรื่องการคุ้มครองเงินฝาก ข้อมูลอัพเดทสถาบันการเงินและผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และความรู้ด้านการเงินอื่นๆ พร้อมให้ผู้ฝากทุกคน เข้าถึงได้อย่างสะดวก และ DPA ก็พร้อมเคียงข้างประชาชนในทุกจังหวะชีวิต เพราะโจทย์ทางการเงินในช่วงชีวิตของแต่ละคนอาจเปลี่ยนไป และปัจจุบันผลิตภัณฑ์ทางการเงินมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว DPA จึงพร้อมรับความท้าทายใหม่ๆ ในโลกการเงินมีการศึกษาข้อมูล ผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ รวมถึงการทำงานเชิงรุกร่วมกับหน่วยงานในตาข่ายความมั่นคงทางการเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อเคียงข้างประชาชนผู้ฝากเงิน
“การเติบโตของเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองเมื่อสิ้นปี 2564 มีจำนวน 15.592 ล้านล้านบาท เติบโต 4.39% ในขณะที่ปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนัก มีอัตราการขยายตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 10.12% สาเหตุเกิดจากความวิตกกังวลที่มีต่อสถานการณ์วิกฤตโรคระบาด อย่างไรก็ดีในปี 2564 นี้ทั้งจำนวนเงินฝากและจำนวนผู้ฝากมีการเพิ่มขึ้นทั้งสองส่วนโดยส่วนใหญ่เป็นเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีสัดส่วนผู้ฝากที่ได้รับการคุ้มครองเต็มจำนวนกว่า 98% ครอบคลุมสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองทั้ง 34 แห่ง” นายทรงพล กล่าวเสริม
ปรับปรุงล่าสุด 6 ก.พ. 2567
สงวนสิทธิ์โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก